ยินดีต้อนรับพี่น้องหมู่เฮา อำเภอบ้านแพงเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดนครพนมเป็นที่น่าอัศจรรย์ด้วยพื้นที่ที่ตั้งอยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติภูลังกาและแม่น้ำโขง ในพื้นที่ 284.7 ตร.กม.นี้มีสถานที่สักการะบูชาและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา น้ำตก หรือแม่น้ำ เชิญพี่น้องหมู่เฮาเริ่มเดินทางเข้าสู่พื้นที่ บ้านแพงกันเลย
พญาศรีสัตตนาคราช สัญลักษณ์เมืองและแลนด์มาร์คแห่งความศรัทธา จ.นครพนม
เดือน สิงหาคม ปี พ.ศ 2559 มีการบวงสรวงเทวา ประกอบพิธีอัญเชิญประติมากรรม พญาศรีสัตตนาคราช จากจังหวัดนนทบุรี เพื่อเดินทางมาสถิต ณ แท่นเอกมงคล จังหวัดนครพนม ชาวนครพนม และทั่วทุกพื้นที่ร่วมใจอัญเชิญ องค์พญานาคา นาม พญาศรีสัตตนาคราช ให้มาสถิต แผ่บุญฤทธิ์ บารมี
เดินทางตามรอยตีนไดโนเสาร์ อายุประมาณ 100 ล้านปี ที่แหล่งเรียนรู้รอยเท้าไดโนเสาร์ ท่าอุเทน อีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาด
Tha Uthen Dinosaur Footprints
โดยแหล่งตีนไดโนเสาร์ท่าอุเทนนี้ เป็นแหล่งที่มีความสำคัญ เพราะพบรอยตีนเป็นจำนวนมากที่สุดของประเทศไทย เป็นร่อยรอยที่ถูกเก็บบันทึกไว้ในชั้นหินโดยธรรมชาติ
เจ้าของรอยตีนที่อยู่ในแหล่งเรียนรู้นี้มี
- ออร์นิโธโมซอร์ (Ornithomimosaurs )
- อิกัวโนดอน ( Iguanodon )
- ซอโรพอด (Sauropods )
- จระเข้ ( Crocodilians )
รอยเท้าไดโนเสาร์เกิดขึ้นได้ยังไง ที่แหล่งเรียนรู้นี้มีคำตอบ
รอยตีนไดโนเสาร์ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
- แม่พิมพ์ ( mold ) หรือ ส่วนที่ไดโนเสาร์เหยียบเป็นรอยลึกลงไปในพื้นดิน
- รูปหล่อ ( cast ) หรือ ส่วนของตะกอนใหม่ที่ตกทับถมรอยตีนนั้น
ฟอสซิลรอยตีนไดโนเสาร์เกิดจาก
- การเหยียบลงพื้นดินที่อ่อนนุ่ม ทำให้เกิดเป็นรอยพิมพ์ขึ้น
- ถูกแดดแผดเผา จนแห้ง
- มีตะกอนใหม่มาตกทับสะสมรอยพิมพ์นั้น
- พื้นดินบริเวณนั้นกลายเป็นหิน ด้วยกระบวนการทางธรณีวิทยาและเวลาที่ผ่านไป
- เปลือกโลกเกิดการเคลื่อนตัว ชั้นหินถูกยกตัวขึ้นเป็นภูเขา และชั้นหินด้านบนถูกกัดเซาะออกไป รอยตีนไดโนเสาร์ก็ปรากฏให้เห็นเป็นฟอสซิล
เมื่อเทียบกับไดโนเสาร์ แล้ว มนุษย์ยุคปัจจุบัน เพิ่งอยู่บนโลก 100,000 ปี ไดโนเสาร์พวกแรกปรากฏขึ้น เมื่อ 230 ล้านปีก่อน แพร่พันธฺครอบครองดินแดนนานถึง 165 ล้านปีที่ผ่านมา จน 65 ล้านปีที่ผ่านมา ไดโนเสาร์ก็สาปสูญไปอย่างฉับพลัน
บรรพบุรุษไดโนเสาร์ขนาดเท่ากับสุนัข มีวิวัฒนาการเป็นนักฆ่าขนาดยักษ์พอๆกับช้าง ไดโนเสาร์เป็นกลุ่มวัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ลักษณะเหมืนสัตว์ เลื้อยคลานปัจจุบัน ส่วนใหญ่มีผิวหนังเป็นเกล็ด หางยาวมีฟัน และกรงเล็บที่นิ้วตีน เดินตัวตรงบนขา เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลักษณะนี้ทำให้มันคล่องแคล่ว ว่องไวบนแผ่นดิน ซึ่งสัตว์เลื้อยคลานในปัจจุบัน จะเดินด้วยขาที่กางออกข้างลำตัว พวกกินพืชที่ตัวยาวเท่ากับรถบัสหลายคัน พวกตัวเล็ก ว่องไวขนาดเท่าไก่
👉ประวัติด้านธรณีวิทยาของแหล่งรอยตีนไดโนเสาร์ท่าอุเทน
👉ประวัติการค้นพบ และ สำรวจ
👉การเดินทาง
- ห่างจากอำเภอท่าอุเทน ประมาณ 15 กิโลเมตร หรือ ห่างจาก อำเภอบ้านแพง 35 กิโลเมตร
- ห่าง จากตัวเมือง จ.นครพนม ประมาณ 59 กิโลเมตร
- ห่างจาก กรุงเทพมหานคร ประมาณ 735 กิโลเมตร
โดยสามารถเดินทางได้ทั้งในส่วนรถโดยสารหรือรถส่วนตัว ผ่านทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 นครพนม - บ้านแพง กิโลเมตรที่ 257
THA UTHEN DINOSAUR FOOTPRINTS |
เดินทางนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุท่าอุเทน ที่ อ.ท่าอุเทน -พระธาตุประจำวันศุกร์
พระธาตุท่าอุเทน Phra That Tha Uthen Temple
มีความรุ่งโรจน์ ดุจดังพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ
พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันศุกร์
แต่ละครั้งที่เดินทาง เข้าตัวจังหวัดนครพนม เมื่อเข้าเขต อำเภอท่าอุเทน จะต้องคอยมองมาฝั่งด้านขวามือ จากถนนหลวง เมื่อพอมองเห็นองค์พระธาตุ ในระยะที่ใกล้ที่สุด จะต้องยกมือก้มศรีษะ เพื่อกราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุ ทุกครั้งไป ในความตั้งใจ คือ ต้องมีสักวันที่จะเข้ากราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุ ภายในที่ตรงประดิษฐานให้ได้ สักครั้ง ในชีวิต
เมื่อมีโอกาศตั้งใจกราบไหว้องค์พระธาตุ แน่นอน เปิด google map วัดพระธาตุท่าอุเทน ซึ่งเป็นตัวช่วยสำหรับนำทาง เพราะยังไม่เคยไป จากถนนหลวง เดินทางเข้าสู่เขต วัดท่าอุเทน ที่ประดิษฐาน ก็ไม่ไกลเลย
สถานที่จอดรถ จะอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับวัดพระธาตุท่าอุเทน
หลังจาก จอดรถเรียบร้อย เดินข้ามฝั่งถนน เพื่อเข้าสู่เขตวัดพระธาตุท่าอุเทน ที่ประดิษฐานองค์พระธาตุ
- สถานที่ตั้ง
ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตอำเภอท่าอุเทน
ห่างจากตัวจังหวัดนครพนม 26 กิโลเมตร หรือจากอำเภอบ้านแพง ประมาณ 68 กิโลเมตร
- ประวัติพระธาตุท่าอุเทน
สร้างในปี พุทธศักราช 2454 โบราณสถานสำคัญภายในวัด คือ พระธาตุท่าอุเทน มีประวัติสร้างเมื่อปี พุทธศักราช 2454-2459 โดยท่านหลวงปู่ สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน จำลองมาจากพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็ก และสูงกว่าพระธาตุพนม หันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม โดยความสูงจากพื้นดินถึงยอด 33 วา ฐานกว้างด้านละ 6 วา 3 ศอก ภายในเจดีย์บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์
ในประวัติจากจารึกวัดพระธาตุท่าอุเทน ที่วัดอรัญะ กล่าวว่า พระครูสีทัตถ์ พร้อมพระสงฆ์ และสามเณรทั้งปวงบรรดาที่เป็นสานุศิษย์ ได้พร้อมเพรียงกันสร้างพระบรมธาตุองค์นี้ไว้ เพื่อเป็นที่ไหว้และสักการบูชาแด่เทวดา และคนทั้งหลายทั้งปวง
ภายในองค์พระธาตุบรรจุ พระพุทธสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญพระพุทธสารีริกธาตุจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ประดิษฐานบรรจุพระบรมธาตุ ในองค์พระธาตุ รวมทั้งของมีค่า บรรจุถวายไว้ องค์พระธาตุแบ่งเป็น 3 ชั้น ลักษณะสถาปัตยกรรม เป็นทรงบัวเหลี่ยม ในผังสี่เหลี่ยมจตุรัส ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว วัสดุใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนฐานเป็นมณฑปซ้อนกัน 2 ชั้น
ตอนกลางแต่ละด้านของมณฑป ทำเป็นประตูหลอก เหนือประตุมณฑปคดโค้ง คล้ายฝักเพกา 5 ใบ
ที่มุมมณฑปตกแต่งปูนปั้นประดับกระจกสี ลายพันธ์ พฤกษา บุคคล และสัตว์ต่างๆ เหนือมณฑปเป็นฐานบัวท้องไม้ลูกแก้วอกไก่ 1 ชั้น ประดับกระจกเป็นลายตารางไขว้กัน
ส่วนตอนกลางเป็นบัวเหลี่ยมประดับปูนปั้น ลายดอกจอก
ส่วนยอดเป็นฐานบัวไม้ลูกแก้ว อกไก่แบบฐานเอวขันรับปลียอดทรงบัวเหลี่ยมและฉัตร
เอกลักษณ์ของวัดพระธาตุท่าอุเทนคือ การแสดงให้เห็นความนิยมของท้องถิ่น ในการสร้างพระธาตุเจดีย์ ตามแบบพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ในพุทธศตวรรษที่ 25 ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงรูปแบบ พระธาตุพนมวรวิหาร ก่อนที่จะพังลงมาในปี พุทธศักราช 2518
กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดพระธาตุท่าอุเทน ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 24 มกราคม 2551 ได้รับการบูรณะครั้งหลังสุดในปี 2560
พระธาตุท่าอุเทน เป็นพระธาตุประจำวันเกิด วันศุกร์ บุคคลใดได้มีโอกาศไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้ กล่าวกันว่า จะได้รับอานิสงค์ชีวิตมีความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ ดุจดังพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ ซึ่งพระธาตุท่าอุเทน หันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์ นอกจากนี้ ทิศเหนือ ยังเป็นทิศประจำของพระโมคคัลลานะ พระอรหันต์ประจำทิศเหนือ ผู้เปี่ยมด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ด้านขวา เป็นทิศตะวันออก ติด แม่น้ำโขง
คาถาบูชาพระธาตุท่าอุเทน สำหรับบุคคลที่เกิดวันศุกร์ คือ วา โธ โน อะ นะ มะ วา
สิ่งของบูชา คือ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีน้ำเงินหรือฟ้า ธูป 21 ดอก เทียน 2 เล่ม
- การเดินทาง
พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันศุกร์
วัดพุทธนิมิตร หลวงพ่อใหญ่ริมฝั่งโขง และอุโบสถ ศิลปะผสมผสาน เดินทางไม่ไกลจาก บ้านแพง นครพนม
วัดพุทธนิมิตร กราบไหว้หลวงพ่อใหญ่
และอุโบสถที่อ่อนช้อยวิจิตรตระการตา
วัดพุทธนิมิตร ตั้งอยู่ที่บ้านตาลหนองเทา ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ห่างจาก อ.บ้านแพง ประมาณ 30 กิโลเมตร
การเดินทาง
หากนักท่องเที่ยวตั้งต้นจาก จังหวัดนครพนม ระยะทางประมาณ 69 กิโลเมตร สามารถ เดินทางโดยรถยนต์ หรือ รถโดยสาร นครพนม- บ้านแพง นครพนม - อุดรธานี ถนนหลวงชนบท ไชยบุรี - ปากห้วยม่วง หมายเลข 212 ได้ เนื่องจากเป็นเส้นทางผ่าน โดยผ่านอำเภอท่าอุเทน รอยเท้าไดโนเสาร์ บ้านพนอม เมื่อถึงบ้านเสียว ศรีสงคราม ก็จะมีทาง สี่ แยก เลี้ยวขวา และเดินทางต่อประมาณ 4 กม ถึงที่ตั้งวัด
แต่หากเดินทางจาก อ.บ้านแพง ระยะทาง 30 กฺโลเมตร ก็สามารถ มารถส่วนตัว หรือรถโดยสารได้เช่นกัน ผ่านบ้าน นาพระชัย อีกนิดหน่อย เมื่อถึงทาง 4 แยก ให้เลี้ยวซ้าย เพื่อเดินทางต่อไปที่ตั้งวัด อีก 4 กิโลเมตร
หรือหากเดินทางมาจากเส้นทางจังหวัดสกลนคร เข้าผ่าน อำเภอศรีสงคราม แล้วเลี้ยวซ้าย มาที่บ้านหาดแพง บ้านเสียวสงคราม หรือ จะเลี้ยวขวามาที่บ้านนาพระชัย ก่อนไปต่อตามเส้นทางหลวง 212 ตามเส้นทางที่เดินทางจากอำเภอบ้านแพงก็ได้
แต่ขอแนะนำว่า เดินทางมารถ ส่วนตัว หรือรถรับจ้างเหมา จะดีที่สุด เพราะ เมื่อถึง สี่แยก ที่ต้องเลี้ยว เดินทางต่อไปที่วัด จะเดินทางต่ออีกประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี่จะไม่มีรถโดยสารประจำทาง
เมื่อมาถึงเขตภายในวัด สิ่งที่สัมผัสได้ คือ ความเงียบสงบ ต้นไม้สูงใหญ่ และ ความสวยงามที่แปลกตาของพระอุโบสถ
เมื่อเข้าสู่อุโบสถเพื่อ กราบไว้พระประธาน คือ พระพุทธชินราช และ สมเด็จพระพุทธสิขี องค์ที่ 1
ผนังภายในพระอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ร่วมสมัย สะท้อนเรื่องราวพุทธประวัติ ปริศนาธรรม และวิถีชีวิตท้องถิ่น สวยงามและแปลกตายิ่งนัก
กล่าวกันว่า สถาปัตยกรรมของอุโบสถเป็นศิลปะล้านช้าง ออกแบบลวดลาย ด้วย ศิลปะเชียงทอง ผสม ล้านนา ฐานก่อสร้างด้วยหินแม่น้ำโขง หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม้แท้ หน้าจั่วภายนอกเป็นลักษณะปูนปั้น
ความโดดเด่น คือ ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และนาคสะดุ้ง ซึ่งมีลวดลายที่อ่อนช้อย วิจิตรงดงาม
เมื่อเดินตามทางเดินมาทิศตะวันออก หรือ ทิศแม่น้ำโขง ประมาณ 300 เมตร จะเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ " หลวงพ่อใหญ่พุทธมงคลนิมิตรัตนรังศรี " องค์ใหญ่ที่สวยงาม เด่นสง่า ระหว่างสองฝั่ง แผ่นดิน บ้านพี่เมืองน้อง ไทย- ลาว สุดเขตแดนสยาม ติดแม่น้ำโขง โดยมีพญานาครอบฐานองค์ใหญ่ ขนาดความสูงประมาณ 20 เมตร หน้าตักประมาณ 10 เมตร พื้นที่โดยรอบ เป็นต้นไม้สูงใหญ่ สร้างความสงบ เย็น ทั่วทั้งบริเวณ
สวนสาธาณะริมหาดแม่น้ำโขง ที่นี่ คือ บ้านแพง
สวนสาธารณะริมหาดแม่น้ำโขง อ.บ้านแพง ความสุขทางสายตาวิวหลักล้าน
พื้นที่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขงตรงข้ามกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นสถานที่สำหรับ พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย วิ่งและ ออกกำลังกาย ของประชาชนทั่วไป ในช่วงเช้า และช่วงเย็น
โดยเป็นทางคอนกรีตติดริมฝั่งโขง ความยาว น่าจะประมาณ 10 กิโลเมตร ตลอดแนวริมแม่น้ำโขง
หรือหากไม่มาออกกำลังกาย ก็สามารถมารับบรรยากาศที่แสนสดชื่นได้ พร้อมความสวยงามของทิวเขาฝั่ง แม่น้ำโขง นอกจากนี้ มีร้านอาหารพร้อมให้บริการ ในพื้นที่ใกล้เคียง
การเดินทางง่ายสะดวก จากปากทางเข้า อ.บ้านแพง ผ่าน ปั๊ม ปตท. ก็เดินทางเป็นเส้นทางถนนเดิม ตรงมายังริมแม่น้ำโขง ผ่าน โรงเรียนมัธยมบ้านแพงพิทยาคม หมู่บ้านดอนแพง ถึงริมแม่น่ำโขงได้เลย
ในส่วนบลอกนี้ จะมีภาพทิวทัศน์ของแม่น้ำโขง และทวเขา เป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้หลายๆท่านได้เห็นบรรยากาศ และทิวทัศน์ท่ี่สวยงาม ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่หาก ได้มาเยือน หรือ มาพักในเขตอำเภอบ้านแพง สามารถมาแวะชมรับบรรยากาศดังกล่าวได้
อีก 1 สถานที่ที่พัก ติดริมแม่น้ำโขง เปิดใหม่สุด บรรยากาศ ยามเช้า และยามเย็น และนอนดูดาว ริมฝั่งโขง บอกได้ว่าบรรยากาศเหมาะของการมาชาร์ตแบต สร้าง energy สำหรับเรา ที่สำคัญ ใกล้ถ้ำนาคา และ นาคี มีภาพบรรยากาศมาฝาก หากนักท่องเที่ยวท่านใดต้องการสัมผัสบรรยากาศดังกล่าว ก็ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่พักได้ หรือเข้าเยี่ยมชมได้ที่ นพรัตน์ แคมป์ปิ้ง อ.บ้านแพง